บทความพิเศษ
อนุภาพมันฝรั่ง
เผยแพร่: 19 เม.ย. 2560
เผยแพร่: 19 เม.ย. 2560
ขณะนี้ Lay’s มีการขยายตัวที่ 30% ซึ่งกำลังจะเพิ่มการผลิตขึ้นไป อีกมันฝรั่งทอดเป็นของกินที่มีมนตราตัวจริง แม้นักโภชนาการจะเตือนคนชอบกินมันฝรั่งทอด ว่าอาจได้รับแคลอรี่ และเกลือมากเกินไป จนทำให้มีผลต่อสุขภาพ แต่ไม่ว่าใครก็ใครพอฉีกถุงหยิบมันฝรั่งทอดใส่ปาก กลับกลายเป็นว่าชิ้นเดียวไม่เคยพอ ทำให้คำเตือนทุกอย่างถูกลืมไปหมด ขณะนี้ อเมริกา ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักรเป็นตลาดบริโภคมันฝรั่งทอดที่ใหญ่ในโลก มันฝรั่งทอด เป็นสินค้าขบเคี้ยวทำเงินตัวจริง ไปเดินที่นั่นจะเห็นยี่ห้อหลากหลายละลานตาไปหมด ถุงมันฝรั่งขนาดที่เรียกกันว่า Party Size! ใช้เป็นหมอนหนุนหัวได้เลยค่ะ
รสชาติมันฝรั่งทอดแต่ละตลาดในโลก จะมีรสมาตรฐานของสินค้าที่ขายดีติดตลาดอยู่แล้วเป็นตัวยืน เช่น รสคลาสสิก ชีส ซาวครีม ฯลฯ จะมีรสชาติที่เป็นแฟชั่น หรือรสเฉพาะท้องถิ่น และเทศกาลแทรกเข้ามารสชาติแปลก ๆ เหล่านี้เป็นการกระตุ้นตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ อาจปรับเปลี่ยนไปตามจังหวะ และฤดูกาล ทำให้คนรู้สึกว่า ตัวสินค้ามีความตื่นเต้น น่าติดตาม น่าลิ้มลองอยู่ตลอดเวลา
คุณสมบัติที่ใช้ขับเคลื่อนในการตลาดของมันฝรั่งทอดนั้น มีอยู่ 2 ประเด็นที่ชัดเจน คือ ลักษณะแผ่นมันฝรั่งทอด และรสชาติ ซึ่งมีการนำมาแตกประเด็นกันต่อไป ลักษณะแผ่นมันฝรั่งทอดอาจผลิตเป็น แผ่น เรียบ หยัก ลูกคลื่น หนา บาง…โรย ปาปริกา สาหร่าย ฯลฯ ส่วนด้านรสชาตินั้น ก็ผลิตรสแปลกใหม่ออกมาต่อเนื่อง เช่น ที่เมืองไทยมีรสแซ่บ เว่อ ปากีสถานมีรส Masala อังกฤษเคยมีรสแกงเผ็ดไทย อเมริกาเคยมีรสยาสีฟัน ฯลฯ แน่นอนว่ากิจกรรมสนับสนุนการตลาดเป็นเรื่องสำคัญ ตัวอย่างกิจกรรมที่น่าสนใจในอเมริกาเป็นที่ฮือฮากันมาก คือ ให้คนประกวด สูตรรสมันฝรั่งทอดในรายการ “Do us a flavor” … “ผลิตรสให้เรา”
เป้าหมาย เพื่อให้คนทั่วไปร่วมกันคิดรสใหม่ให้กับมันฝรั่ง แล้วทางบริษัทจะนำไปปรุงขาย 4 รส เป็นการเปิดกิจกรรม ทางการตลาดใหญ่ จากนั้นเมื่อได้รสที่คัดเลือกแล้ว ก็นำไปผลิตออกขาย แล้วให้ผู้บริโภคทั่วประเทศ ร่วมกันโหวตทางสื่อโซเชียลว่ารสไหนถูกใจที่สุด คนคิดและผลิตรสที่ได้รับโหวตสูงสุดรับเงินไป 1 ล้านดอลลาร์ ไม่น้อยเลยค่ะ 30 กว่าล้านบาทเชียวนะคะ กิจกรรมสนับสนุนการขายอย่างนี้ ได้จัดกันหลายหนแล้ว ปีนี้ก็จัดอีก ช่างคิดจริง ๆ ค่ะ…
มันฝรั่งทอด เป็นสินค้าขายดีตัวจริง ในร้านเขาจะวางให้เห็นได้ชัดเจน ไม่มีการนำไปวางในจุดซ่อนเร้นต้องค้นหาเด็ดขาด แต่ขณะที่มันฝรั่งทอดโหมขายกันเพลิน ก็ต้องระวังหลังอยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน เพราะสังคมอีกกลุ่มหนึ่ง ยังเห็นว่ามันฝรั่งทอดเป็นปัจจัยช่วยทำให้เกิดโรคหลายอย่าง และกลุ่มอนุรักษ์ก็บอกว่า ถุงใส่มันฝรั่งทอดที่กลายเป็นขยะ สร้างปัญหาให้กับโลกปีละมากมาย บนเขาเอเวอเรสท์ก็ยังเจอถุงมันฝรั่งทอดยี่ห้อดัง มันขึ้นไปได้ยังไง…
ส่วนสำคัญที่สุดของมันฝรั่งทอดนั้น คือหัวมันฝรั่ง หัวมันฝรั่งนั้น มาจากพืชชนิดหนึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ ในแถบเทือกเขาแอนดีส คนที่นั่นปลูกกันมานานแล้ว แต่อาจจะปลูกกันหลังรู้จักปลูกข้าวโพด มันฝรั่งได้กลายเป็นอาหารประเภทแป้งอีกอย่าง ที่ให้พลังงานสำหรับคนในทวีปอเมริกาใต้ และที่นั่นยังมีพืชตระกูลมันหลากหลาย สีแปลก ๆ ขนาดต่าง ๆ ตั้งแต่ขนาดเท่าหัวแม่มือ ถึงขนาดใหญ่กว่ากำปั้น แอนดีสเป็นถิ่นมหัศจรรย์บนผืนโลกจริง ๆ ค่ะ พวกสเปนนำพืชที่เรียกว่า Patata หรือมันฝรั่ง ออกมาจากแอนดีสในทวีปอเมริกาใต้ กลับมาปลูกในยุโรป พวกยุโรปนำมันฝรั่งไปปลูกแพร่หลายในโลก แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเหมือนข้าวโพด ไม่มีเค้าเลยค่ะ ว่าต่อมามันฝรั่ง จะกลายมาเป็นอาหารหลักชนิดหนึ่งของคนทั่วโลก และกลายเป็นขนมขบเคี้ยวที่ขายกันถล่มทลายได้อย่างนี้
คนยุโรปนำพืชจากเทือกเขาแอนดีสชนิดนี้มาปลูกไว้สนุก ๆ เพื่อเอาไว้คุยหรืออวดชาวบ้านกันว่า เป็นพืชจากต่างถิ่น ปล่อยให้มันงอกข้างบ้านไปยังงั้น แต่ก็ไม่กล้ากิน แม้จะรู้กันมาว่าคนพื้นเมืองที่อเมริกาใต้กินมันฝรั่งกันเป็นอาหารหลัก แต่คนยุโรปไม่ไว้ใจ กลัวว่ามันมีพิษจึงได้แต่ปลูก เพื่อเป็นอาหารให้สัตว์เลี้ยงกิน อย่างไรก็ตาม มันฝรั่งก็ได้กระจายพันธุ์แพร่หลายไปตามที่ต่าง ๆ เรื่อย ๆ ในฐานะอาหารสัตว์ แต่คนยากจนในยุโรปที่อดอยากไม่มีอาหารกิน กลับสังเกตเห็นว่า เอ… สัตว์เลี้ยงกินมันฝรั่งแล้วมันไม่ยักกะตายนี่นา
ตกเข้าหน้าหนาว พวกคนยากจนไม่มีอาหารกิน ก็ไปขุดมันฝรั่งที่เขาปลูกไว้เลี้ยงสัตว์มากินมั่ง คนยากจนในยุโรปนี่แหละ เป็นกลุ่มประชากรกลุ่มทดลอง ที่พิสูจน์ว่ามันฝรั่งเป็นอาหารที่คนบริโภคได้แล้วไม่ตาย มันฝรั่งจึงเริ่มขยับสถานะจากอาหารสัตว์มาเป็นอาหารของคนระดับล่าง หรือคนยากจน และมันฝรั่งก็กลายมาเป็นอาหารที่บอกถึงสถานะทางสังคม มันฝรั่งคืออาหารสำหรับคนจน คนรวยจะเชิดไม่กินมันฝรั่งค่ะ
สถานภาพของมันฝรั่งเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจัง เมื่อคนฝรั่งเศสชื่อ Antoine-Augustin Parmentier ทำให้คนฝรั่งเศส รวมถึงคนในยุโรปเปลี่ยนทัศนคติ และพฤติกรรมในการบริโภคครั้งสำคัญ ทำให้คนหันมากินมันฝรั่งเป็นอาหารหลักได้อย่างไม่น่าเชื่อ Antoine-Augustin Parmentier เป็นบุคคลที่ได้ตรึงมันฝรั่งไว้ ให้อยู่ในจานอาหารของคนฝรั่งเศส ทำให้เกิดวัฒนธรรมการกินมันฝรั่งแพร่หลายไปทั่วโลกทุกวันนี้
คนยุโรปยังคงดูถูกเหยียดหยามมันฝรั่ง และเติมแต่งเรื่องราวไม่ดีให้กับมันฝรั่ง จนกลายเป็นพืช และอาหารชั้นต่ำน่าขยะแขยง เช่น พูดกันว่า การกินมันฝรั่งจะทำให้เป็นโรคเรื้อน ก็ยิ่งทำให้คนห่างเหินมันฝรั่งออกไปอีก มันฝรั่งจึงมีสถานะเป็นอาหารสำหรับสัตว์ในยุโรปอยู่ราว 200 ปี แต่ก็มีเหตุการณ์วิกฤติ ซึ่งนำไปสู่การปฎิวัติการกินอาหารในโลกครั้งสำคัญสงครามในยุโรปที่เรียกว่าสงคราม 7 ปี (1756–1763) อังกฤษเข้ายึดที่มั่นของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และยึดเรือสินค้าฝรั่งเศสหลายร้อยลำ ทำให้มีกลุ่มประเทศเข้าสนับสนุนทั้งฝ่ายอังกฤษ และฝ่ายฝรั่งเศส กลายเป็นความขัดแย้งขึ้นในหลายพื้นที่ในโลก (อาจเรียกว่าเป็น สงครามโลกก็ว่าได้)
ชาติต่าง ๆ เข้าสนับสนุนแต่ละฝ่าย เพราะมีเป้าหมายซ่อนเร้นอยู่ เช่น ออสเตรียอยากจะเอาพื้นที่ Silesia คืนจากปรัสเซีย ซึ่งปรัสเซียมาเป็นพันธมิตรกับอังกฤษ สเปนซึ่งปกครองด้วยราชวงศ์บูร์บองเดียวกับฝรั่งเศส ก็ฉวยโอกาสบุกโปรตุเกส ในเอเชียนั้นพวกโมกุลในอินเดีย ก็อยากให้ฝรั่งเศสช่วยปลดตัวเองออกจากอำนาจของ อังกฤษ ฯลฯ มั่วกันน่าดู….แต่ฝรั่งเศสแพ้สงครามค่ะ จึงมีการเปลี่ยนพื้นที่ครอบครองระหว่าง อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส หลายแห่ง อังกฤษผู้ชนะได้พื้นที่ของฝรั่งเศส และของสเปนในอเมริกาส่วนหนึ่ง แต่ยกเว้น Louisiana
สงครามครั้งนี้แหละ อังกฤษสามารถลดความยิ่งใหญ่ ความเว่อของฝรั่งเศส ที่ได้ส่งออกวัฒนธรรมแวร์ซาย ทำให้ราชสำนักต่าง ๆ และคนยุโรปมากมายที่คลั่งไคล้ลงไปได้ แต่เรื่องเล็ก ๆ เรื่องหนึ่งกลับมาบานปลายขึ้น ในจานอาหารของคนฝรั่งเศส ซึ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกระแส และรสนิยมการกินอาหารในโลกครั้งสำคัญในเวลาต่อมาค่ะ
ในสงครามครั้งนั้น นายทหารเสนารักษ์ฝรั่งเศสชื่อ Antoine Augustin Parmentier ซึ่งอยู่ในกองทัพฝรั่งเศสขึ้นไปรบที่ Hanover ถูกจับเป็นเชลย และไปติดคุกที่ปรัสเซีย ในช่วงที่ถูกจับ จำคุกอยู่นั้น พวกปรัสเซียเลี้ยงดูพวกเชลยอย่างสมราคา คือนำอาหารที่คนฝรั่งเศสใช้เลี้ยงหมูให้กิน นั่นคือมันฝรั่ง ค่ะ…คุกปรัสเซียได้กลายเป็นห้องทดลองทางชีววิทยาครั้งสำคัญ Antoine-Augustin Parmentier อยู่ในคุกปรัสเซีย ก็เห็นว่าตนเองกับนักโทษคนอื่น กินมันฝรั่งแล้วไม่ยักกะตายทั้ง ๆ ที่เชื่อกันว่ามีพิษ หลังจากถูกปล่อยจากปรัสเซียก็ได้ศึกษา วิจัยมันฝรั่งอยู่อีกช่วงหนึ่ง และขณะนั้นเหตุการณ์ในฝรั่งเศสกำลังข้าวยากหมากแพง
มีวิกฤติการณ์ซ้ำเติมจากภูเขาไฟในไอซ์แลนด์ระเบิด ส่งเถ้าธุลีไปบังแสงพระอาทิตย์มืดมัวไปทั่วยุโรปถึงอเมริกา ไม่สามารถปลูกพืชในหน้าร้อนไว้เป็นอาหารได้ ส่งผลต่อเนื่องให้ฝรั่งเศสขาดแคลนอาหาร และเดินหน้าเข้าสู่การปฏิวัติ ใหญ่ Antoine Augustin Parmentier เห็นว่ามันฝรั่งนี่แหละ จะทำให้คนฝรั่งเศสพ้นจากความอดอยาก ความคิดของเขาในขณะนั้นมีอยู่ 2 อย่าง ที่จะช่วยให้คนฝรั่งเศสทุเลาจากภาวะขาดแคลนอาหาร คือ
1. ทำอย่างไรให้คนฝรั่งเศสหันมากินมันฝรั่ง
2.ทำอย่างไรให้คนฝรั่งเศสหันมาปลูกมันฝรั่ง
ในข้อแรกนั้น เขาต้องทำลายกำแพงแห่งความเชื่อ ในการเปลี่ยนจากอาหารสัตว์ มาเป็นอาหารคนเสียก่อน เนื่องจากเขา กับนักโทษฝรั่งเศส ที่ไปติดคุกในปรัสเซียต่างก็เป็นกลุ่มตัวอย่าง ที่สามารถพูดได้เต็มปากว่า มันฝรั่งเป็น อาหารที่คนกินแล้วไม่ตาย ไม่ได้ทำให้เป็นโรคใด ๆ และงานวิจัยในห้องทดลองที่เขาทำ ต่อมาเห็นว่าเป็นอาหารที่เทียบเคียงข้าวและอาหารประเภทแป้งได้ เขากับเพื่อน ๆ เป็นตัวอย่างที่ยืนยันได้ว่า รอดตาย จากคุกปรัสเซียมาได้ เพราะกินมันฝรั่งเป็นอาหาร เรื่องนี้เป็นการใช้หลักการสื่อสารตรง กับเวลาที่ฝรั่งเศสขาดแคลนอาหารพอดี คนจึงให้ความสนใจอย่างมาก
ส่วนการทำอย่างไร ให้คนฝรั่งเศสหันมาปลูกมันฝรั่งกิน เขามีวิธีที่เด็ดมากขึ้นไปอีก คือได้ไปขอพื้นที่จากกษัตริย์หลุยส์ 16 แปลงใหญ่ เพื่อปลูกมันฝรั่งในทำนอง สวนพฤกษศาสตร์ ก็ได้รับพระราชทานที่ดินมาแห่งหนึ่ง ขนาดใหญ่มาก เทียบได้กับพื้นที่บ้านเราก็ประมาณ 100 ไร่ ประกาศว่า เพื่อเป็นแปลงปลูกมันฝรั่งหวงห้าม (ทำนองนั้น) การประกาศไว้อย่างนี้ สร้างคุณค่าให้กับพื้นที่ทดลองอย่างมาก ซ้ำให้ทางการจัดทหารมาเฝ้ายาม เพื่อป้องกันคนขโมยมันฝรั่งในแปลงทดลอง ทำให้เป็นเขตหวงห้ามดูเข้มงวด เป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้นไปอีก แต่นั่นเป็นแผนการค่ะ…
จากนั้นให้แพร่ข่าวเขตหวงห้ามออกไป โดยแกก็แอบไปให้คนซุบซิบกันว่า หากใครอยากได้พันธุ์มันฝรั่งไปปลูก ก็ให้ไปขโมยในแปลงปลูกมันฝรั่งหลวงตอนกลางคืน เพราะทหารไม่อยู่ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น แกต้องการให้คน มาขโมยมันฝรั่งไปปลูกกิน เป็นอาหาร นี่เป็นวิธีการแพร่พันธุ์มันฝรั่งของ Antoine-Augustin Parmentier ความคิดเขายิ่งใหญ่ และมีบุญคุณต่อคนฝรั่งเศสมากค่ะ…
ส่วนในแวร์ซายนั้น มันฝรั่งกลายเป็นพืชยอดฮิต ขนาดว่าพระนางมารีอ็องตัวเน็ต ยังนำต้นมันฝรั่งมาประดับทรงผม ซึ่งก็รู้กันนะคะ ว่าอะไรที่เกิดในแวร์ซายส์นั้น อีกไม่กี่วันจะต้องป็นเรื่องซุบซิบให้แซ่ดเป็นพลุแตกไปทั่วยุโรป นั่นแหละค่ะ ที่เป็นจุดเปลี่ยนของมันฝรั่ง แล้วมันฝรั่งก็ได้กระจายพันธุ์ กลายเป็นพืชที่ได้รับความนิยมในฝรั่งเศสมากขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่บัดนั้น หากใครไปปารีสวันนี้ ให้ขึ้นไปนั่ง Paris Métro สาย 3 จะเห็นสถานี Métro แห่งหนึ่งชื่อว่า Parmentier ซึ่งอยู่ระหว่างสถานี République กับ Rue Saint-Maur นั่นเป็นชื่อบุคคลที่ได้ช่วยให้คนฝรั่งเศสรอดจากความอดอยาก ด้วยการทำให้คนฝรั่งเศสหันมาปลูก และกินมันฝรั่งในวิกฤติการอาหาร เป็นการตรึงมันฝรั่งไว้ให้อยู่ในจานอาหารของคนฝรั่งเศสทุกวันนี้ ทั้งหมดทั้งปวงนั้นคือ วิธีการแก้วิกฤตอย่างแยบยลของ Antoine-Augustin Parmentier เภสัชกรและนักพฤกษศาสตร์ฝรั่งเศส ผู้เปลี่ยนมันฝรั่ง… อาหารในคอกหมูให้กลายมาเป็น อาหารบนโต๊ะหรูสำหรับชาวฝรั่งเศสโดยแท้
ราว 50 ปี จากนั้น มันฝรั่งได้กลายมาเป็นอาหารหลักของคนยุโรปไปอย่างไม่น่าเชื่อ มีตัวอย่างที่พิสูจน์ว่า คนบางส่วนของโลกได้กลายเป็นทาสการกินมันฝรั่งไปแล้วอย่างแท้จริง ก็คือ กรณีขาดแคลนอาหารครั้งใหญ่ในไอร์แลนด์ ในช่วง ค.ศ. 1841-56 จากต้นเหตุที่เกิดเชื้อราระบาดมันฝรั่ง รวมทั้งพืชที่ปลูกไว้เป็นอาหารครั้งใหญ่ ในเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า Potato Blight ส่งผลให้คนไอริชต้องอดอาหารตายไปราว 1 ล้านคน และอพยพออกนอกประเทศ อีกราว 1 ล้านคน ทุพภิกขภัยครั้งนี้ ถือเป็นการขาดแคลนอาหารรุนแรงครั้งหนึ่งของยุโรป
เหตุการณ์ Potato Blight ทำให้เปลี่ยนโครงสร้างทางสังคมของประชากรในไอร์แลนด์ครั้งสำคัญ เพราะทำให้ประชากรไอริชหายไปจาก ประเทศ ราว 20-25% คนไอริชอพยพจากแผ่นดินแม่ไปอยู่ในบางพื้นที่ในยุโรป และสหรัฐอเมริกาจำนวนมากตระกูลอดีตประธานาธิปดี John F. Kennedy ก็อยู่ในกลุ่มคนที่หนีตายมาจากเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า Potato Blight ในไอร์แลนด์ครั้งนั้นแหละค่ะ เหตุการณ์ที่สืบเนื่องมาจากโรคระบาดของมันฝรั่งในไอร์แลนด์ กลายเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่ง ที่บอกได้ว่ามันฝรั่ง ซึ่งคนเคยเชื่อกันว่าเป็นอาหารมีพิษกินแล้วเป็นโรคเรื้อน แถมเคยเป็นอาหารสัตว์ ได้กลายมาเป็นอาหารหลักตัวจริงของคนยุโรปไปแล้ว จากนั้นตำรับอาหารเพื่อใช้ปรุงมันฝรั่ง มีหลากหลายแปลกใหม่เพิ่มออกมาเรื่อย ๆ
นอกจากวิธีการปรุงที่ง่ายสุด ๆ คือ Baked และ Boiled Potatoes แล้ว การปรุงมันฝรั่งได้พัฒนาให้ซับซ้อน มีหน้าตาแปลก ๆ ออกมาเป็นอาหารชนิดใหม่ ทำให้มันฝรั่งกลายเป็นเทพีกลางมื้ออาหารมากขึ้น Duchess Potatoes / Anna Potatoes / Croquette Potatoes…. มีที่มาต่าง ๆ กันไป ซึ่งแน่นอนว่าชื่อที่สำคัญคือ Parmenteir Potatoes เพื่อเป็นเกียรติ และรำลึกถึง Antoine-Augustin Parmentier เภสัชกร, นักพฤกษศาสตร์ และนายทหารเสนารักษ์ของกองทัพฝรั่งเศส ผู้เห็นคุณค่าของมันฝรั่ง จากการไปติดคุกในปรัสเซีย และทำให้คนฝรั่งเศสรู้จักกินมันฝรั่งตามที่ได้เขียนไว้ในตอนที่แล้ว พ่อครัวต่างก็ใช้มันฝรั่งเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารชนิดใหม่ เป็นจุดขายตัวเอง และกลายเป็นประเพณีปฏิบัติ ให้เชฟฝึกหัดเริ่มต้นจากการหัดปอกมันฝรั่งก่อน ที่จะก้าวไปสู่การเรียนรู้สิ่งอื่น ๆ
ปัจจุบัน มันฝรั่งที่นำเข้ามาปลูกในยุโรปราว 400 ปีที่ผ่านมา ได้กลายเป็นอาหารหลัก ของคนมากกว่าครึ่งโลก นี่คือหนึ่งในความมั่นคงทางอาหาร ที่จะมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก เพราะมันฝรั่งกินง่ายกว่าข้าว การนำมันฝรั่งไป ต้ม ทอด เผา ผัด แล้ว กิน ใช้ขั้นตอนน้อยกว่าข้าวที่ต้องนวดจากรวงสี เอาเปลือกออก บดเป็นแป้ง นวดกับยีสต์ แล้วอบเป็นขนมปัง หรือหุง วิธีการกินมันฝรั่งที่ง่ายอีกอย่างคือ นำมันฝรั่งมาหั่นเป็นชิ้น หรือแผ่นเล็ก ๆ เรียกกันว่า Chips นำไปทำให้สุก แล้วโรยเกลือกลายเป็นอาหารที่กินกับอะไรก็ได้ ง่าย และสะดวก ใช้นิ้วหยิบใส่ปากได้เลย ไม่ต้องใช้ช้อน เหมือนกับการกินข้าว
แนวคิดการทำอาหารจานด่วนหลายอย่าง ที่ประสบความสำเร็จคือ การนำ Chips เข้ามาเป็นองค์ประกอบ ที่อังกฤษนั้นคือ Fish & Chips อเมริกาคือ Burger & Chips เยอรมันนีคือ Wurst หรือไส้กรอกอะไรก็ได้ กินกับ Chips (Pommes Frites) รับรองว่าอร่อยหมด แต่การทำ Chips ให้อร่อยไม่ได้ง่ายหรอกนะคะ Chips ที่อร่อยควรทำเป็นเส้นเล็กกว่าดินสอเล็กน้อย จะไม่อมน้ำมันมาก การทอดต้องใช้เวลากับอุณหภูมิของน้ำมันที่สัมพันธ์กัน ให้ผิวกรอบ นิด ๆ แต่เนื้อในนุ่มเล็กน้อย ในฝรั่งเศสมีร้านขายสเต็ก ชื่อ L’Entrecôte นั่ง Metro ไปที่ Porte-Maillot เป็นร้านหนึ่งที่ทอด Chips ได้อร่อยล้ำ ต้องเข้าคิวรอที่หน้าร้านดูเขากินกัน เป็นการเรียกน้ำย่อยสักพักหนึ่ง ถ้าไม่อยากเข้าคิวไปสาขาอื่นก็ได้ค่ะ
ปัจจุบันนี้ สหประขาชาติ ถือว่า มันฝรั่ง มีความสำคัญต่อมนุษยชาติเป็นอันดับ 3 รองจากข้าว และข้าวสาลี ทวีปเอเชีย กับยุโรป เป็นพื้นที่ผลิตมันฝรั่งมากที่สุด คือประมาณ 80% ของการผลิตในโลก ประเทศไทยเราขณะนี้ ผลิตในมันฝรั่งได้ 124,100 ตัน ขณะที่ปริมาณต้องการบริโภคอยู่ที่ประมาณ 170,000 ตัน และยังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทิศทางการปลูกในประเทศส่วนหนึ่ง เป็นเกษตรพันธสัญญา กับบริษัทแปรรูปอาหาร หลายพื้นที่ในโลกมีการวิจัยเพื่อหาชนิดมันฝรั่ง และวิธีการปลูกที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลผลิตดี แม้แต่อินเดียก็มีการวิจัย สามารถปลูกมันฝรั่งในพื้นที่มีอากาศค่อนข้างร้อน ประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การกินมันฝรั่งในประเทศไทยเพิ่มชัดเจนขึ้นมาก ดีพาร์ตเม้นต์สโตร์บ้านเรา มีมันฝรั่ง Frozen ขายอยู่ทั่วไป มันฝรั่งในส่วนที่รุกหนักทั่วโลกตัวจริงนั้น คือ ขนมขบเคี้ยว
ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จ สามารถผลิตมันฝรั่งระดับพรีเมี่ยมไปนานแล้ว และก็เสพติดการกินมันฝรั่งกันค่อนข้างรุนแรง ฮ็อกไกโด ได้กลายเป็นแหล่งผลิตมันฝรั่งที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง โรงงานผลิตขนมขบเคี้ยวที่นั่น มีรายได้จากขนมที่ผลิตจากมันฝรั่งรับกันไม่หวาดไม่ไหว เมื่อพายุพัดเข้าฮอกไกโด ทำให้มันฝรั่งทอดยี่ห้อดังหายจากหิ้งขายทั่วประเทศญี่ปุ่นไปด้วย ทำให้ราคาที่ซื้อขายกันทางสื่อโซเชียลสูงขึ้นไปเป็น 5 เท่า ไปญี่ปุ่นเราจะเห็นขนมจากฮอกไกโด ซึ่งทำจากมันฝรั่งชื่อ Jagabee ของ Calbee กับ Jagapokkuru ของ Potato Farm (ก็คือ Calbee นั่นแหละ) เป็นขนมที่หยิบใส่ปากแล้วหยุดไม่ได้ค่ะ บางชนิดขายดีจนร้านขายขนมที่สนามบินต้องเขียนบอกเป็น ภาษาไทยว่า … “ซื้อได้คนละ 2 กล่อง” เท่านั้น นั่นคือสิ่งที่บอกเราว่า อาหาร และขนมจากมันฝรั่ง จะไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไปแล้วแน่นอน