One Voice Message การสื่อสารอย่างเป็นหนึ่ง ให้อยู่ในแนวทางขององค์กร

บทความพิเศษ

Oktoberfest เทศกาลเบียร์ใหญ่ที่สุดในโลก

Oktoberfest เทศกาลเบียร์ใหญ่ที่สุดในโลก

งาน Oktoberfest จัดขึ้นที่เมืองมิวนิก (München) ทุกปี คนเห็นชื่อ Oktoberfest แล้วนึกว่างานนี้จัดในช่วงเดือนตุลาคม

Picture of ม.ล.อัจฉราพร สุขสวัสดิ์​
ม.ล.อัจฉราพร สุขสวัสดิ์​

เผยแพร่: 19 ก.ย. 2560

แชร์บทความนี้
ตอนที่ 1

จริง ๆ แล้ว การจัดงาน Oktoberfest เกือบทั้งหมดราว 2 สัปดาห์นั้น เขาจัดกันในเดือนกันยายน เพียงแต่ช่วงสิ้นสุดของงาน จะไปจบในต้นสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม

ปีนี้จะเริ่มจัดในเที่ยงวันเสาร์ที่ 16 กันยายน ไปสิ้นสุดในเที่ยงวันอังคารที่ 3 ตุลาคม ซึ่งก็เหลือเวลาสัปดาห์กว่าแล้วค่ะ ใครตัดสินใจไปงาน Oktoberfest ที่มิวนิกตอนนี้ยังทัน แต่อาจจะหาที่พักยากหน่อยนะคะ เทศบาลเมืองมิวนิกจะประกาศช่วงเวลาจัดงาน Oktoberfest ล่วงหน้า 1 ปี เผื่อว่าใครจะวางแผนไปเที่ยว Oktoberfest รวมทั้งคนที่จะไปทำธุระในเยอรมันนี จะปรับตัวเกี่ยวกับที่พัก และการเดินทางได้สะดวก เพราะโรงแรมในมิวนิกช่วง Oktoberfest จะไม่ค่อยมีห้องให้พัก และก็จะโก่งราคาด้วย เนื่องจากทั้งคนในเยอรมันนีเอง และคนจากต่างประเทศจะเดินทางมาทางเครื่องบิน และขับรถเข้ามาเพื่อจะสนุกกับงานนี้ในมิวนิกจำนวนมาก

ที่เขาใช้ชื่องาน Oktoberfest เนื่องมาจากมิวนิกได้เคยจัดงานใหญ่ขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 12 -17 ตุลาคม ค.ศ. 1810 ในการเฉลิมฉลองพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าหญิง Therese แห่ง Saxe-Hildburghausen กับมกุฎราชกุมาร Ludwig ของ Bavaria (ภายหลังได้เป็นกษัตริย์ Ludwig I ของ Bavaria) กิจกรรมสำคัญอย่างหนึ่งในงานฉลองครั้งนั้นคือ การแข่งม้า ซึ่งได้จัดขึ้นในบริเวณจัดงาน Oktoberfest ปัจจุบัน จบงานไปแล้วคนเห็นว่าสนุกสนาน จึงให้มีการจัดงานครบรอบการอภิเษกสมรสขึ้นทุกปี และได้นำชื่อเจ้าหญิง Therese มาเรียกบริเวณนี้บริเวณนั้นว่า Theresienwiese
จากนั้นมีการจัดงาน Oktoberfest ที่ Theresienwiese เรื่อยมาถึงปัจจุบัน แต่คนที่มิวนิกนิยมเรียกงานนี้ในชื่อย่อง่าย ๆ ว่า Die Wiesn ถึงวันนี้… งาน Oktoberfest คงไม่ใช่งานที่จัดเพื่อครบรอบการฉลองการอภิเษกสมรสแล้ว เพราะผ่านมานานกว่า 200 ปี เรื่องการอภิเษกสมรสจางไปมากแล้ว รูปแบบ รวมทั้งจุดมุ่งหมายของงาน Oktoberfest ได้เปลี่ยนจากการแข่งม้าสนุกสนาน มาเป็นการพักผ่อน งานดื่มเบียร์สังสรรค์ ก่อนเข้าฤดูใบไม้ร่วงไปเสียแล้ว และหัวใจสำคัญที่ดึงดูดคนจากทั่วโลก มาสนุกสนานรื่นเริงในงาน Oktoberfest ขณะนี้คือ เบียร์ดังของมิวนิก
เบียร์ เป็นสิ่งที่บอกถึงตัวตนของเยอรมันนีจริง ๆ ค่ะ โรงงานผลิตเบียร์ดัง ๆ มีอยู่ทุกเมืองในเยอรมันนี ซึ่งเวลาเราไปเที่ยวเมืองโน้นเมืองนี้ในเยอรมันนี สิ่งหนึ่งที่จะทำคือ… ไปเมืองนั้นแล้วจะไปกินเบียร์ยี่ห้ออะไร ในมิวนิกมีบริษัทผลิตเบียร์อยู่หลายยี่ห้อ แต่ที่จัดว่าเป็นที่นิยมและเป็นที่ขึ้นหน้าขึ้นตามีอยู่ 6 ยี่ห้อ เรียกกันว่า Big Six บริษัทผลิตเบียร์รายสำคัญทั้ง 6 แห่งนี้แหละค่ะ ได้กลายมาเป็นหัวใจที่ดึงดูดให้คนมาเที่ยวงาน Oktoberfest ในปัจจุบัน
บริษัทผลิตเบียร์รายสำคัญของมิวนิก 6 ยี่ห้อใหญ่ที่ว่านี้คือ Löwenbräu / Hofbräuhaus / Augustinerbräu / Paulaner / Hacker-Pschorr / Spaten เข้ามาตั้งเต็นท์ขายเบียร์และอาหาร เทศบาลมิวนิกให้ความสำคัญกับบริษัทเบียร์ทั้ง 6 แห่งนี้เพราะถือว่าเป็นธุรกิจที่จ่ายภาษีให้กับมิวนิกจำนวนมาก รวมทั้งกระจายรายได้จากการประกอบกิจการไปยังคนในภาคการผลิตมากมาย และได้สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองมิวนิกโดยตรง

Big Six ได้สร้างเต็นท์ขนาดใหญ่ยักษ์ ที่จุคนได้หลายพันคน หรือบางเต็นท์น่าจะถึงหมื่นคน บางบริษัทไม่ได้ตั้งเต็นท์เดียวเสียด้วย เพราะคนมากินเบียร์รวมทั้งงานแล้ว วันละเป็นแสน ๆ คน ปีที่แล้วมีถึง 14 เต็นท์ เบียร์บางชนิดของบางยี่ห้อ ไม่ได้ส่งออกไปขายที่อื่น จึงเป็นแรงดึงดูดให้คนทั่วโลกมาดื่มด่ำในงานนี้ คนหลากวัยเดินเที่ยวสนุกสนาน คนอายุเกิน 18 เข้าไปกินเบียร์ ร่วมร้องเพลงสนุกสนานอยู่ในเต็นท์ขายเบียร์ แต่พ่อแม่ และเด็กที่นำเด็กเข้าไปในเต็นท์ไม่ได้ ก็มีเต็นท์อาหาร สำหรับคนไม่จำกัดวัย รวมไปถึงร้านขายขนม และกิจกรรมให้สนุกอีกมากมาย โดยเฉพาะอุปกรณ์การเล่นประเภทเหวี่ยง ๆ หมุน ๆ เรียกเสียงกรี๊ดมีรออยู่เพียบ

งาน Oktoberfest ได้กลายเป็นงานที่อยู่ในใจ และคนรับรู้ไปทั่วโลก ในทุกปีจะมีภาพข่าวนายกเทศมนตรีเมืองมิวนิก ทำพิธีเปิดก๊อกเบียร์แล้วดื่มเบียร์แก้วแรก นั่นคือการเปิดงาน Oktoberfest อย่างเป็นทางการ
ใครอยู่ในเยอรมันนีช่วงนั้น จะเห็นการถ่ายทอดสดขบวนคนแต่งตัวพื้นเมืองแบบบาวาเรียน ใช้ขบวนม้าลากถังเบียร์ และอุปกรณ์การจัดงานแบบดั้งเดิม หม้อ ไห กระทะ ฯลฯ ไปยังพื้นที่ Theresienwiese Oktoberfest เป็นกิจกรรมในการกระจายรายได้จำนวนมากที่สำคัญในเยอรมันนี ส่งผลไปถึงการสร้างเงินหมุนเวียนมหาศาลให้กับคนในวงจรการผลิตมากมาย ทั้งคนงานและแรงงานในภาคเกษตร และอุตสาหกรรมเบียร์ของบาวาเรีย รวมไปถึงวงจรการผลิต หมู ไก่ วัว ไส้กรอก ฯลฯ มาเป็นอาหารมาขายในงาน เบียร์ทั้ง 6 ยี่ห้อหรือ Big Six มียอดขายรวมกันในงาน Oktoberfest มากถึง 7.5 ล้านลิตร ถือเป็นการตอกย้ำแบรนด์ให้กับ Big Six เข้มแข็งได้เป็นเรื่องเป็นราวจริง ๆ

เราไปถึงมิวนิกแล้วตั้งใจจะไปเที่ยว หรือร่วมในบรรยากาศของงาน Oktoberfest นั้นไม่ยาก ให้นั่งรถใต้ดินสาย U4 หรือ U5 ไปที่สถานี Theresienwiese ขึ้นจากใต้ดินมาแล้ว เดินตามชาวบ้านไปเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวหลงทาง เพราะมีแต่คนเดินไปงาน Oktoberfest หรือ Die Wiesn ทั้งนั้น แต่เวลาเดินต้องดูดี ๆ เพราะจะมีพวกเมาเบียร์มานอนหลับอยู่ตามริมทางเท้า ระวังอย่าไปเหยียบเขานะคะ… Prost !…
ตอนที่ 2

เที่ยงตรงวันนี้ตามเวลาที่มิวนิก (München) ในเยอรมันนี ซึ่งตรงกับ 5 โมงเย็นที่บ้านเรา เป็นเวลาที่เขาเริ่มจัดงาน Oktoberfest 2017 อย่างเป็นทางการ

ซึ่งงานนี้ได้จัดกันมาตั้งแต่ ค.ศ. 1810 ในช่วงเวลาสนุกสนานประมาณ 2 สัปดาห์กว่า ๆ จะมีคนเข้ามาในงาน Oktoberfest ประมาณ 6 ล้านคน นี่เป็นงานรื่นเริงใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับปีนี้งานจะไปสิ้นสุดในวันที่ 3 ตุลาคม

เมื่อก่อนนั้นการเข้าไปในงาน Oktoberfest ที่มิวนิกไม่มีอะไรเข้มงวด แต่ปีหลัง ๆ มานี้เขาเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย โดยจะตรวจร่างกาย และสัมภาระคนมาเที่ยวงานก่อนผ่านเข้าไปในบริเวณจัดงาน ไม่ให้นำกระเป๋าชิ้นใหญ่เข้าไปในงาน ในปีนี้น่าจะเข้มงวดมากขึ้นไปอีก เพราะเยอรมันนีเพิ่งโดนก่อเหตุร้ายในประเทศไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไปที่ไหน ๆ ในโลกเขาเข้มงวดกันทุกพื้นที่ ประเทศที่เข้มงวดสุด ๆ ตอนนี้คือ อังกฤษค่ะ

งาน Oktoberfest ที่มิวนิก กลายเป็นงานรื่นเริงใหญ่ที่สุดในโลก ใช้พื้นที่บริเวณ Theresienwiese คลุมพื้นที่ราว 80 ไร่ รูปแบบของการจัดพื้นที่ในทุก ๆ ปี จะเหมือนกัน คือการมาสนุกสนาน กินอาหาร และกินเบียร์ และถือว่าเป็นการอำลาฤดูร้อนที่กำลังจะสิ้นสุดลง เพราะหลังจากงานนี้จบลง ฤดูหนาวจะคืบคลานเข้ามา อากาศของบาวาเรียจะเย็นลงเรื่อย ๆ คนจะออกมาสนุกสนานรื่นเริงนอกบ้านอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว

ภายในงาน… เต็นท์เบียร์ของเหล่า Big Six หรือเบียร์ดัง 6 ยี่ห้อของมิวนิก มาตั้งกระหนาบทางเดินใหญ่ เราสามารถเดินแวะเข้าไปดูได้ทุกเต็นท์ แต่ละเต็นท์จะจุคนได้ราว 5-6 พันคน แต่มีเต็นท์ที่ใหญ่ที่สุดอยู่เต็นท์หนึ่ง คอเต็นท์ของเบียร์ยี่ห้อ Hofbräu ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดของ Big Six จุคนได้มากกว่าเต็นท์อื่น ๆ เต็นท์อื่นโดยมากทำให้นั่งกันแค่ชั้นเดียว แต่ Hofbräu ยกร้านรอบ ๆ ขึ้นไปอีกชั้น ได้ถามสาวที่นำเบียร์มาบริการว่า…ทำไมเต็นท์นี้มันใหญ่อย่างนี้… จุได้กี่พันคนคะ ? เธอบอกว่า… “จุได้หมื่นคน” เงิบไปเลยค่ะ

ในเต็นท์มีวงดนตรี หรือแตรวงในรูปแบบบาวาเรียน ที่เรียกว่า Oompah Band อยู่ภายในทุกเต็นท์ บางเต็นท์ก็จัดวงให้เล่นที่ตรงกลาง บางเต็นท์ก็จัดวงให้เล่นที่ติดข้างใดข้างหนึ่งของเต็นท์ เพลงที่เล่นส่วนมากจะเร็วกระหึ่มแน่นหนักเร้าใจได้ต่อเนื่อง คนในเต็นท์ที่บางโต๊ะร้องเพลงไปกับวงดนตรีอย่างสนุกสนาน
นักดนตรีเล่นไปกินเบียร์ไป เห็นแล้วเคลิ้มตาม ดูแล้วเป็นเยอรมันจริง ๆ คนที่มานั่งกินอาหาร และกินเบียร์บางโต๊ะสนุกกันหนัก ก็จะขึ้นไปบนโต๊ะกอดคอร้อง และเต้นไปด้วย เต้นหนักเท่าไหร่เต้นไปเลย คุณภาพโต๊ะเยอรมันไม่พังง่าย ๆ หรอก คนเยอรมันแม้สนุกสนานก็ยังพร้อมเพรียง เห็นแล้วจึงไม่แปลกใจเลยว่า… ทำไมประเทศเยอรมันนีจึงเป็นชาติที่ทำอะไรเป็นกลุ่มก้อน และเข้มแข็งสุด ๆ จนเกือบจะครองโลกไปแล้ว 2 ครั้ง

งาน Oktoberfest สามารถจัดการให้ทุกองค์ประกอบมีความสัมพันธ์ และลื่นไหล ทุกคนเข้ามาในงานมีความสุขกันถ้วนหน้า แต่ก็ได้ซ่อนการควบคุมไว้อย่างแนบเนียน โดยกระจาย CCTV และ ร.ป.ภ. นอกเครื่องแบบไว้ทั่วงาน ส่วนที่ทุกหน้าเต็นท์จะมี ร.ป.ภ. ร่างใหญ่ยักษ์ยืนให้ความอุ่นใจกับแขกที่มาในงาน และไว้จัดการกับคนที่มาทำลายบรรยากาศทั้งในเต็นท์และนอกเต็นท์ ความจริงแล้วคนเยอรมันแท้ ๆ จะมีอุปนิสัยที่อยู่ในวินัยไม่วุ่นวายอยู่แล้ว

ในการควบคุมบรรยากาศในเต็นท์ให้ทุกคนอยู่ร่วมกันเรียบร้อยมีกฎสำคัญที่ทุกคนต้องรับรู้คือ คนจะสั่งอาหารและเบียร์กินได้ก่อนอื่นจะต้องมีโต๊ะนั่ง ทุกเต็นท์จะไม่อนุญาตให้คนเดินถือเหยือกเบียร์กิน เดินว่อนไปว่อนมา หรือทำลายบรรยากาศส่วนรวมเด็ดขาด สำหรับคนเยอรมันเขามีกฎไว้สำหรับเคารพและปฎิบัติจริง ๆ อ้าว… แล้วเราไม่มีที่นั่งจะทำไงกันละเนี่ย….
ใครอยากจะได้ที่นั่งก็ต้องมาก่อนเที่ยง หรือไม่ก็ก่อนงานจะเลิก ก็คือตอนที่เขาจะหยุดขายก่อน 4 ทุ่มครึ่ง เดินออกเต็นท์นี้ไปเต็นท์โน้นก็มีคนเต็มทุกเต็นท์ เรื่องที่นั่งนั้นทางบริษัทขายเบียร์เขาแบ่งโต๊ะไว้ส่วนหนึ่งสำหรับลูกค้าที่จองไว้ ก็โต๊ะที่เราเห็นว่าง ๆ นั่นแหละ หลายบริษัทในมิวนิกมาจ่ายเงินจองไว้ บางบริษัทจองไว้ตลอดงานเลย บริษัทในมิวนิกถือว่าช่วง Oktoberfest เป็นช่วงเวลาให้พนักงานพักผ่อน จึงมาจองโต๊ะไว้ให้พนักงานของตัวเอง สลับเวลามาสนุกสนานกัน ถือว่าเป็นของขวัญจากฝ่ายบริหาร ส่วนพวกที่มาจองโต๊ะอีกพวกหนึ่งคือ พวกทัวร์เอเย่นต์ซึ่งจะนำโต๊ะไปปล่อยขายทางอินเตอร์เน็ต ก็เข้าไปเลือกซื้อได้เลยค่ะ
แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไร กะว่าเดินไปหาที่นั่งกันเอง ขอแนะนำให้ใช้วิธีการเข้าไปที่โต๊ะไหนที่กำลังเฮกันอยู่ และมีท่าทางเป็นมิตร ก็ขอเขาใช้เป็นพื้นที่สั่งเบียร์ ร่วมเฮฮากับเขาไปเลย ซึ่งก็จะได้เพื่อนใหม่อีกหลายคน วันนั้นพบว่า กลุ่มที่ขอเข้าไปใช้โต๊ะเป็นพวกที่เดินทางมาจากเมืองสตราสบูร์กในฝรั่งเศส ซึ่งอยู่ติดชายแดนเยอรมันนี เป็นพวกที่มุ่งหมายมางานนี้จริง ๆ โดยนัดหยุดงานพร้อมกัน แล้วออกเดินทางเข้าเยอรมันนีมาตั้งแต่เช้า ใช้เวลาเดินทางจากสตราสบูร์ก 4 ชั่วโมงครึ่ง มาถึงมิวนิกตอนงาน Oktoberfest เปิดพอดี กินเบียร์กันให้ฉ่ำแล้วจะกลับวันพรุ่งนี้ ความจริงแล้วชีวิตคนในยุโรปอยู่กันอย่างไร้พรมแดนตั้งแต่ก่อนรวมเป็น EU มาแล้วละ
งาน Oktoberfest สร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจให้กับมิวนิกในวงกว้าง ในช่วงการจัดงาน Oktoberfest ของทุกปี จะมีการจ้างแรงงานเพิ่มมากมาย ทั้งที่ทำงานอยู่ในและนอกพื้นที่จัดงาน เกี่ยวเนื่องเป็นลูกโซ่นับหมื่น ๆ คน Oktoberfest เป็นงานที่กระจายรายได้ให้กับคนมากมายจริง ๆ ค่ะ คนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง ที่จ้างมาทำงานในช่วง Oktoberfest คือผู้หญิงที่มาเสิร์ฟเบียร์และอาหารในเต็นท์ต่าง ๆ หญิงสาวในมิวนิกตั้งหน้าตั้งตาสมัครทำงานนี้ในช่วง Oktoberfest กันมาก เพราะรายได้ดีค่ะ ทั้งค่าแรงและค่าทิปรับกันไม่หวาดไม่ไหว
ผู้หญิงเสิร์ฟเบียร์เหล่านี้ไม่ใช่หญิงหุ่นบอบบาง แบบสาวเชียร์เบียร์แถวบ้านเรานะคะ แต่พวกเธอเป็นสาวบาวาเรียนร่างกำยำและอึดสุด ๆ ถือเบียร์เหยือกละลิตรได้เต็มที่ครั้งละ 10-12 เหยือก น้ำหนักรวมทั้งแก้วทั้งเหยือกทั้งเบียร์ก็ประมาณ 15 กิโล เดินเสิร์ฟได้ตั้งแต่สายยันดึก ผู้หญิงบาวาเรียนในเต็นท์เบียร์เหล่านี้แข็งแรงจริง ๆ ใครไปทำให้เธอโมโหอาจถูกเธอบีบคอตายได้ เธอพูดคำไหนคำนั้น ขอให้เชื่อฟังและปฏิบัติค่ะ…