องค์กรประกอบกิจการอยู่รอด เป็นการพิสูจน์ได้ถึงศักยภาพของการดำเนินการ ที่สามารถก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เวลาครบรอบวันเกิดองค์กร ก็จะมีธรรมเนียมที่เหล่ามิตรทางธุรกิจ ร่วมส่งคำขอแสดงความยินดีในวาระครบรอบวันเกิด เห็นแล้วก็อิ่มเอมในความสำเร็จ ตอนนี้ผู้เขียนจะขอ วกเข้าประเด็นว่า การที่องค์กรหรือบริษัทของเรา ดำเนินกิจการมาปีแล้วปีเล่า องค์กรของเราได้รับการบันทึกเรื่องราวขององค์กรที่ผ่านมาไว้บ้างหรือไม่ หรือบันทึกไว้ดีเพียงใด เช่น ปีใดที่เกิดวิกฤติการเงิน แล้วเราผ่านไปได้อย่างไร? ปีใดที่เราเปลี่ยนตราสินค้าใหม่ เพราะอะไร? ปีใดที่เราสร้างอาคารทำงานหลังใหม่? ปีที่เราเปิดสาขาแห่งใหม่? มีคนเข้ามาขอชมงานปีละกี่คน? ฯลฯ
การบันทึกเรื่องราวความก้าวหน้าขององค์กรที่ผ่านมานั้น มีความหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเป็นเนื้อหาสำคัญที่ต้องมีอยู่ใน Website หรือ Homepage ซึ่งมักเรียกกันในหัวข้อประวัติ หรือที่มาองค์กร การบันทึกนอกจากจะไว้เล่าขานถึงที่มาที่ไปขององค์กร ยังจะเกี่ยวเนื่องไปถึงเรื่องคุณค่าของแบรนด์โดยตรง เรื่องอดีตขององค์กรนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ให้คุณค่าอย่างมาก และถือว่าเป็นส่วนที่ช่วยสร้างศรัทธา ความเชื่อมั่น ต่อองค์กรและตราสินค้า
องค์กรปัจจุบัน จะวางข้อมูลส่วนนี้ไว้ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วนใหญ่ เพราะสามารถกระจายข้อมูลไปให้ใคร ๆ ทราบได้สะดวกและง่ายที่สุด บรรดาสื่อและบล็อกเกอร์ต่าง ๆ เมื่อคิดจะหาข้อมูลองค์กร ก็มักจะใช้ข้อมูลจากแหล่งนี้ ไปประกอบกับหัวข้ออื่น ที่จะนำไปเสนอต่อไปได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย องค์กรทั่วไปจะมีหน่วยงานดูแลเรื่องนี้ใกล้ชิดอยู่แล้ว และบางองค์กรทำงานได้อย่างน่าทึ่งทีเดียว เพราะเราจะเห็นได้ชัดเจนในหนังสือรายงานประจำปีของแต่ละองค์กร ซึ่งนำเสนอเรื่องราวในอดีต ให้ผู้ถือหุ้นได้เห็นบางภาพบางมุมที่แปลกต่างออกไปจากปีก่อน ๆ เสมอ ถ้าเรามีข้อมูลเหล่านี้มาก พวกเขาจะทำงานได้อย่างมีสีสันมาก
คุณค่าของอดีตองค์กรอีกส่วนหนึ่ง ที่นอกเหนือจากการเก็บข้อมูลหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์แล้ว คือ การเก็บรักษาหลักฐานและชิ้นงานที่เป็นจริง ซึ่งหมายรวมไปตั้งแต่การรักษาอาคารเก่า การเลือกนำอุปกรณ์เครื่องมือดั้งเดิมชิ้นสำคัญ ที่เคยใช้ผลิตมารักษาและแสดงไว้ให้ใคร ๆ เห็น ตัวอย่างองค์กรที่ทำเรื่องนี้ให้เราเห็นชัดเจนก็คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทไปรษณีย์ไทย และคิดว่าคงมีองค์กรอีกหลายแห่งที่มีหลักฐานในการประกอบการทำนองนี้