เมื่อ Pechachuteq ได้รวมพื้นที่ในเทือกเขา Andes เข้าอยู่ในจักรวรรดิ Inca แล้วก็ให้ทายาททางการเมืองของทุกมณฑลมาอยู่ที่เมืองหลวงของ Inca คือที่ Cuzco เพื่อให้ลืมความเป็นตัวตนของบ้านเมืองเดิม นี่คือหลักการกลืนชาติที่สมัยก่อนก็ใช้กันทั่ว ๆ ไป อย่างที่พม่า หรือ ออตโตมาน ก็ใช้หลักการนี้ แต่ Inca มีความแยบคายกว่ามาก เพราะ Inca รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนนั้นคือการเปลี่ยนแปลงความเชื่อและทัศนคติ
Inca ทำให้ทุกมณฑลหันมานับถือบูชาพระอาทิตย์ โดยจักรพรรดิ Inca นี่แหละคือสมมติเทพที่สามารถติดต่อกับพระอาทิตย์ได้โดยตรง พวก Inca วางตำแหน่งเสาหิน Intihuatana เป็นนาฬิกาแห่งฤดูกาลที่ Machu Picchu นี่คือเสาหินที่ฉลาดกว่า Smartphone สมัยนี้ เพราะมีเงาที่สามารถบอกได้ทั้ง วัน วษุวัต: Equinox คือวันที่กลางวันและกลางคืนและกลางวันยาวเท่ากันกลางฤดูร้อนและกลางฤดูหนาว วัน ครีษมายัน : Summer Solstice ซึ่งเป็นวันในกลางฤดูร้อนที่กลางวันยาวที่สุด วัน เหมายัน : Winter Solstice เป็นวันในช่วงฤดูหนาวที่กลางวันสั้นที่สุด
เห็นแล้วต้องยอมรับค่ะว่า Inca เก่งมาก ที่สามารถใช้เงาก้อนหินก้อนนี้ นอกจากสามารถบอกถึงปฏิทินแห่งฤดูกาลอันแม่นยำแล้ว ยังใช้ทำงานทางการเมืองด้วย โดยให้ทุกมณฑลส่งขบวนมาร่วมกันจัดพิธีกรรมในวันเหล่านั้น วันเหล่านั้นมีความสำคัญในสังคมเกษตรกรรม เพราะเป็นวันกำหนดเวลาในการเปลี่ยนกิจกรรมชีวิตในพื้นที่เพาะปลูก อีกนัยหนึ่งเงาหิน Intihuatana ยังเป็นปฏิทินกิจกรรมทางการเมือง ที่ทุกมณฑลในจักรวรรดิต้องมาร่วมพิธีกรรมที่ Supa Inca ติดต่อสื่อสารกับดวงอาทิตย์
Inca ใช้หลักการทางดาราศาสตร์ไปรวมกับเศรษฐศาสตร์ มาทำงานทางการเมือง สามารถควบคุมให้ทุกแว่นแคว้นอยู่ใต้อาณัติเป็นวิธีการที่เนียนมาก นั่นคือเรื่องของอิทธิพลของหิน Intihuatana เพียงแท่งเดียวของ Inca แต่การมาที่ Machu Picchu ยังมีข้อน่าสังเกตุอีกอย่างหนึ่งที่คนเห็นแล้วทึ่งมากอีกอย่างคืองานก่อสร้างด้วยหินของ Inca มีความประณีตอย่างมาก
หากเทียบงานก่อสร้างด้วยหินของ Inca กับงานก่อสร้างด้วยหินของพวก อิยิปต์ กรีก โรมัน ขอม และที่อื่น ๆ จะเห็นว่าผลงานในการก่อสร้างของพวก Inca มีฝีมือประณีตและมีเนื้องานที่มีคุณภาพดีกว่ากลุ่มชนอื่น ๆ ที่กล่าวมาทั้งหมด Inca สามารถทำผิวก้อนหินให้เรียบเหมือนกับตัดด้วยเลเซอร์ และยังสามารถเชื่อมหินแท่งใหญ่เบ้อเร่อขนาด 2-300 ตันเข้าด้วยกันได้เรียบสนิทแม้จะเอาใบมีดโกนแทรกเข้ายังไม่ได้เลย