สีฟ้า-ขาว : แบรนด์ของบาวาเรีย อย่าเพิ่งนึกว่า เป็นแต่สีของอาร์เจนตินา

บทความพิเศษ

สีฟ้า-ขาว : แบรนด์ของบาวาเรีย

สีฟ้า-ขาว : แบรนด์ของบาวาเรีย

เราอย่าเพิ่งนึกว่า สีฟ้า-ขาว เป็นแต่สีของ ประเทศอาร์เจนตินานะคะ เพราะเวลาเราไปไหน ๆ ในรัฐบาวาเรียก็จะเห็นเขาตกแต่ง โน่น นี่ นั่น ด้วย สีฟ้า-ขาว เหมือนกัน

สีฟ้า-ขาว คือสีในเชิงสัญญลักษณ์ ที่คนในรัฐบาวาเรียภาคภูมิใจอย่างยิ่ง
Picture of ม.ล.อัจฉราพร สุขสวัสดิ์​
ม.ล.อัจฉราพร สุขสวัสดิ์​

เผยแพร่: 10 ต.ค. 2560

แชร์บทความนี้

ธงของรัฐบาวาเรียมี 2 แถบ คือ แถบ ฟ้า อยู่ ล่าง แถบขาวอยู่บน แต่ธงอาร์เจนตินามี 3 แถบเรียงกันจากบนมาล่าง คือ ฟ้า-ขาว-ฟ้า ซึ่งจะถือว่า สีฟ้า-ขาว เป็นสีอัตลักษณ์ หรือเรียกว่าเป็น สีแบรนด์ของทั้งสองพื้นที่ก็น่าจะได้

แต่ผู้เขียนมีความรู้สึกลึก ๆ ว่าอาร์เจนตินาใช้ สีฟ้า-ขาว กันเข้มข้นในเรื่องฟุตบอล ส่วนบาวาเรียใช้ สีฟ้า-ขาว เป็นประโยชน์หลากหลายมาก โดยเฉพาะใช้ผนึกความกลมเกลียวสามัคคีในรัฐบาวาเรียทั้งหมดค่ะ ผืนธงของรัฐบาวาเรียเป็นแถบ สีฟ้า-ขาว หรือไม่ก็ทำเป็นลายรูปเหลี่ยม ข้าวหลามตัดสลับกันแบบตารางหมากรุก 21 ช่อง ซึ่งเขายังนำ สีฟ้า-ขาว ไปประดับที่อื่น โดยปรับให้มีลักษณะแปลกต่างกันออกไป ตามสถานที่ เช่น ทำเป็นริ้วแถบสีให้ยาวเพื่อ รัด ปลิว ห้อย หรือ พัน กับวัตถุอื่น หรือเป็นโมไบล์ก็ได้ เอาเป็นว่า… ถึงเราอยู่นอกประทศเยอรมนี หากเห็นที่ผลิตภัณฑ์ใดมีลายหมากรุกหรือริ้ว สีฟ้า-ขาว อย่างที่ว่าไว้ เดาไว้ก่อนเลยค่ะว่า… น่าจะมาจากรัฐบาวาเรีย
สีฟ้า-ขาว คือสีในเชิงสัญญลักษณ์ ที่คนในรัฐบาวาเรียภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ภูมิใจมากจนดูเหมือนจะเว่อ ๆ ด้วยซ้ำ และรู้สึกว่าคนบาวาเรียนออกจะโอ้อวดกว่าคนรัฐอื่นอยู่นิด ๆ แต่เพราะเหตุของความคลั่ง สีฟ้า-ขาว ของคนบาวาเรียนนี้แหละ ทำให้ สีฟ้า-ขาว ถูกนำมาใช้เป็นแบรนด์ของรัฐบาวาเรียที่ชัดเจน ไปไหนมาไหนในบาวาเรียก็จะเห็นลายหมากรุกข้าวหลามตัดสีฟ้า-ขาว ทั่วไปหมด ไม่ว่าจะเป็น กระดาษปูโต๊ะ แก้วน้ำ กล่องสินค้า ถุงชอปปิ้ง รวมไปถึงสินค้าที่ขายในร้านขายของที่ระลึก
ลายหมากรุกข้าวหลามตัดสีฟ้า-ขาว ถูกใช้เป็นลายกระดาษรองแก้ว ผ้าปูโต๊ะ ฯ
สีฟ้า-ขาว เป็นสีของรัฐบาวาเรียมานานแล้ว และเป็นสีที่อยู่ในตราอาร์มของราชวงส์วิทเทลสบาค ซึ่งเคยครองรัฐบาวาเรีย สงสัยอยู่นานแล้วค่ะ ว่าที่มาของ สีฟ้า-ขาว ซึ่งเป็นสีประจำรัฐมีที่มาอย่างไร เมื่อไปคุยกับคนบาวาเรีย ก็ได้คำตอบมาหลายอย่าง คำตอบที่น่าสนใจประเด็นแรกคือ เป็นสีของเพชรสีฟ้าขนาดไข่นกพิราบของราชวงศ์วิทเทลสบาค ซึ่งเป็นเพชรดังอีกเม็ดหนึ่งของโลกได้ไปจากอินเดีย …ไม่ใช่เพชร Hope นะคะ (มีโอกาสจะเขียนวันหลังค่ะ)
อีกเหตุผลหนึ่งคนบาวาเรียนบอกว่า… หากเราออกจากบ้านในวันที่แดดจ้าฟ้าใส จะเห็นสีธรรมชาติที่โดดเด่นของบาวาเรียสวยงามประทับใจอยู่ 2 สี คือ…. สีฟ้าของท้องฟ้า และสีขาวของหิมะ ที่ไม่เคยหายไปจากเทือกเขาแอลป์ เมื่อหิมะสีขาวละลายก็จะกลายมาเป็นสีฟ้าของธารน้ำ และทะเลสาป มันเป็นสีที่ร้อยรัดเกื้อกูลกันของธรรมชาติบาวาเรีย
ส่วนในเพลงชาติของบาวาเรียก่อนจะมารวมกับ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมันนี ก็ยังมีเนื้อความว่า …สวรรค์ชั้นฟ้าของบาวาเรียมี สีฟ้า และขาว ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องราวที่ไกลออกไปอีก ไม่ว่าจะมีที่มาอย่างไรก็ตาม ต่อมาบาวาเรียได้ใช้ สีฟ้า-ขาว แทนตัวตนอย่างชัดเจน และที่สำคัญ คือ สีฟ้า-ขาว ในอีกมิติหนึ่งได้กลายเป็นสีที่ประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ และสินค้าของบาวาเรียไปแล้ว คนต่างถิ่นก็รู้สึกนิยม และไว้วางใจในคุณภาพสินค้าที่มาพร้อมกับ สีฟ้า-ขาว ของบาวาเรีย ไม่เพียงแต่ Weissbier ที่ทำจากข้าวสาลี แต่ได้รวมไปถึงรถ BMW ด้วย พักสั่งเครื่องดื่มที่ Marienplatz ยังเข้าไปยืนใต้ร่มบังแดด สีฟ้า-ขาว ของเบียร์ยี่ห้อหนึ่งโดยไม่รู้ตัว หลบไม่พ้นจริง ๆ นะ
บริเวณหน้าศาลากลางเมืองเก่า ที่เรียกว่า Marienplatz หากเดินไปตอน ตอน 11 โมง เที่ยง แล้วก็ 5 โมงเย็น ก็จะเห็นคนไปยืนกันเต็ม เพื่อจะดูนาฬิกา Cuckoo ขนาดใหญ่ของอาคารตีบอกเวลา ซึ่งจะมีเสียงดนตรีระฆัง ประกอบหุ่นเริงระบำชุดใหญ่ ในเรื่องราวการสยุมพรครั้งสำคัญ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตแผ่นดินบาวาเรีย ทำนองดนตรีมาจากการตีระฆัง 43 ชิ้น นานราว 10 นาที ดังเป็นพลงต่อเนื่อง ขอแนะนำว่าที่ยืนดูที่เหมาะที่สุด คือขึ้นไปดูจากหน้าต่างร้านขายหนังสือชั้น 4 ของตึกตรงข้าม ไปจองแต่เนิ่น ๆ นะคะ เพราะหลายคนจะย่องไปตรงนั้นเหมือนกัน
เรื่องราวในการเต้นระบำของหุ่นที่รื่นเริง มีไคลแม็กซ์เป็นการประลองทวนบนหลังม้าของอัศวินบาวาเรียฝ่ายเจ้าบ่าว กับอัศวินออสเตรียจากราชวงศ์ฮัปสเบอร์กฝ่ายเจ้าสาว ไม่ต้องสงสัยเลยค่ะว่า อัศวินตัวไหนเป็นของบาวาเรีย ก็อัศวินที่นั่งอยู่บนหลังม้าซึ่งมีผ้าคลุม สีฟ้า-ขาว นั่นแหละ ส่วนอัศวินของออสเตรียนั่งอยู่บนหลังม้าซึ่งมีผ้าคลุม สีแดง-ขาว และถูกอัศวินบาวาเรียใช้ทวนแทงหงายเงิบพ่ายแพ้คาหลังม้า อัศวินของบาวาเรียนเก่งสุด ๆ พวกเขาต้องเก่งค่ะ เพราะพวกเขาเป็นบาวาเรียน ในการแสดงนี้ อัศวินบาวาเรียแทงอัศวินออสเตรียหงายหลังวันละ 3 หนมาหลายปีแล้ว และก็จะแทงต่อไปจนกว่าจะมีการรื้อนาฬิกาเรือนนี้ลง
นาฬิกา Cuckoo ขนาดใหญ่ของอาคาร Marienplatz มีไคลแม็กซ์เป็นการประลองทวนบนหลังม้าของอัศวิน
อย่างนี้เรียกว่าคนบาวาเรียน หลงตัวตนจนถึงขั้นเว่อไปหรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็เพราะการรักตัวตน และแสดงออก ซึ่งความเป็นบาวาเรียนอย่างผึ่งผายนี้แหละ ได้กลายมาเป็นแรงขับเคลื่อนในการสร้างความกลมเกลียวของคนบาวาเรียนที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เชื่อเถอะค่ะ… เพราะการเคลื่อนไหวพรรคนาซีเริ่มแรกได้เริ่มที่โรงเบียร์แแห่งหนึ่ง ในมิวนิกของบาวาเรียใกล้ ๆ หอนาฬิกาที่ Marienplatz นี่เอง