ประธานาธิบดีแอร์โดอันของตุรกี จึงได้กลายเป็นคนหนึ่งที่มีภาพข่าวเผยแพร่อย่างมีนัยสำคัญ ในการประชุมครั้งนี้ ส่วนอีกคนนั้นที่จีนให้ความสำคัญมากในการประชุมครั้งนี้คือ ประธานาธิปดีปูตินของรัสเซีย ก็เพราะแถบเส้นทางสายไหม เป็นเส้นทางที่เชื่อมไปในพื้นที่ไซบีเรียของรัสเซีย รวมทั้งมงโกเลียซึ่งรัสเซียเคยมีบทบาททางการเมือง อีกทั้งจีนกับรัสเซียยังเป็นมิตรที่แนบแน่น และเห็นดีงามกับโครงการนี้
ความจริงแล้ว จีนได้ลงทุนในเส้นทางสายไหมมาเงียบ ๆ นานมากแล้ว คือตั้งแต่ ค.ศ. 1966 ไม่ได้เพิ่งมาทำเมื่อ 4 ปี จีนได้สร้างถนนในแนวเส้นทางสายไหมเดิม ที่ใช้กันตั้งแต่สมัยมาร์โคโพโล เพื่อใช้งาน และเพื่อเข้าไปจัดการเรื่องความมั่นคงใน ซินเกียง และจีนยังเลยออกไปร่วมมือกับปากีสถานสร้างถนนต่อไปผ่านปากีสถาน เพื่อไปเชื่อมกับอัฟกานิสถานที่ Khyber Pass เป็นถนนมิตรภาพ เรียกว่า Karakoram Highway (KKH)
ปัจจุบัน ปากีสถาน และจีนใช้เส้นทาง KKH ไปออกอัฟกานิสถานและ ไปขายย่านนั้น และเมื่อจีนต้องการใช้เส้นทางสายไหมให้ได้ประโยชน์กว่านี้ Belt and Road Forum จึงเกิดขึ้น ขณะที่นักข่าวตะวันตก ยังมองจีนอย่างขำ ๆ หรือดูแคลน แต่สำหรับ สี จิ้นผิง นั้น ได้โหมโรงด้วยบทที่ 1 ของ One belt, One road อย่างลุ่มลึก รอดูค่ะว่าจีนจะทำอะไรต่อ ลงทุนลงแรงไปแยะแล้ว รับรองว่า สี จิ้นผิง ไม่ทำอะไรเล่น ๆ แน่ ใครขำก็ขำไป….