Nice และ Riviera Riviera” เป็นคำในภาษาอิตาลี แปลว่า “แนวชายฝั่ง”

บทความพิเศษ

Nice และ Riviera

Nice และ Riviera

Riviera” เป็นคำในภาษาอิตาลี แปลว่า “แนวชายฝั่ง” หรือ “ท่าน้ำ” แต่คำว่า “Riviera” ที่เข้าใจกันในภูมิศาสตร์การท่องเที่ยว จะหมายถึง แนวชายฝั่งทะเล Mediterranean เริ่มจากเมือง La Spezia ของอิตาลีติดต่อยาวเรื่อยไปถึงเมือง Marseille ของฝรั่งเศส มีความยาวของฝั่งเชื่อมรวมกันแล้วประมาณ 500 กม. “

Riviera พื้นที่ต้นแบบเมืองธุรกิจชายฝั่งทะเลที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของโลก
Picture of ม.ล.อัจฉราพร สุขสวัสดิ์​
ม.ล.อัจฉราพร สุขสวัสดิ์​

เผยแพร่: 07 ส.ค. 2560

แชร์บทความนี้
Picture of ม.ล.อัจฉราพร สุขสวัสดิ์​
ม.ล.อัจฉราพร สุขสวัสดิ์​

เผยแพร่: 07 ส.ค. 2560

แชร์บทความนี้

Riviera จึงมีอยู่ 2 ส่วน คือ Riviera ส่วนที่อยู่ในอิตาลีและ Riviera ส่วนที่อยู่ในฝรั่งเศส Riviera ในอิตาลี ก็มักจะเรียกกันสั้น ๆ ว่า Riviera ซึ่งเป็นภาษาอิตาลีอยู่แล้ว

ส่วน Riviera ที่อยู่ในฝรั่งเศส อาจจะเรียก Riviera เหมือนในอิตาลีก็ได้ แต่คนฝรั่งเศสมักใช้คำเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Cote d’Azur (โก้ด ดา ซูร์) คือชายฝั่งริมน้ำสีคราม ความจริงแล้วในเขต Riviera ยังมีพื้นที่รัฐเล็ก ๆ อีกรัฐหนึ่งรวมอยู่ด้วยคือ …ราชรัฐ Monaco หากขับรถเลียบชายฝั่ง Riviera จากอิตาลีไปสุดในฝรั่งเศสรวดเดียว โดยใช้ Motorways (ในฝรั่งเศสเรียกว่า Autoroutes) แวะกินอาหารบ้าง เข้าห้องน้ำบ้าง ก็จะใช้เวลา 6-7 ชม.
แต่ถ้าขับไปแวะพักไป แบบ Slow Life เลือกลงไปใช้เส้นทางเล็ก ๆ เลียบชายทะเลบ้าง ไต่ขึ้นไปขับตามชายเขาบ้าง หาเส้นทางที่หวาดเสียว เช่น เส้นทางแบบที่เขาแข่งรถสูตร 1 ใน Monaco บ้าง ขอสัก 2 อาทิตย์ น่าจะกำลังดี อย่าให้เงินหมดเสียก่อนก็แล้วกัน….
เส้นทางใน Riviera ค่อนข้างอันตรายค่ะ เพราะเป็นถนนที่ต้องวิ่งอยู่บนเปลือกโลก ในส่วนของภูเขาแอลป์ทางใต้ของยุโรป ซึ่งบางส่วนจู่ ๆ ก็มาหักเป็นหน้าผา จมดิ่งลงไปในทะเล Mediterranean สำหรับทะเล Mediterranean นอกชายฝั่ง Riviera หากจะเรียกให้ถูกต้อง จะต้องเรียกว่าทะเล Ligurian เป็นชื่อกลุ่มคนดั้งเดิมที่เคยอาศัยอยู่ ต่อมากลายเป็นชื่อรัฐ Liguria ชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนืออิตาลี ถัดจากรัฐ Liguria ก็เข้าไปในพื้นที่ของฝรั่งเศส โดยมีรัฐ Monaco ขวางทางให้สะดุดอยู่หน่อยหนึ่ง
เส้นทางใน Riviera เป็นถนนที่ต้องวิ่งอยู่บนเปลือกโลก ในส่วนของภูเขาแอลป์ทางใต้ของยุโรป
Riviera เป็นพื้นที่ต้นแบบเมืองธุรกิจชายฝั่งทะเลที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของโลก เริ่มจากคนอังกฤษหนีหนาวมาพักผ่อนที่ Riviera ราว 100 กว่าปีก่อน จากนั้นเมืองแถบ Riviera ได้พัฒนารูปแบบเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลเรื่อยมา ลักษณะชายฝั่งของ Riviera เป็น โขดหิน เวิ้งอ่าว มีหาด แทรกอยู่บ้าง เหมาะกับการ เล่นน้ำ เปลือยกายอาบแดด หรือล่องเรือส่วนตัว จอดแล้วพักค้างตรงซอกมุมของทะเลที่เงียบสงบ คนไป Riviera มักจะไปเริ่มต้นที่ Nice (นีซ) ในฝรั่งเศส ซึ่งมีชายหาดยาวมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นหินและกรวด
ท่าอากาศยาน Nice Cote d’Azur มีจำนวนผู้โดยสารใช้มากเป็นอันดับ 3 ในฝรั่งเศส คือรองจาก Paris Charles de Gaulle และ Paris Orly ขณะที่คนใช้สนามบินที่ Charles de Gaulle และ Orly รวมกันปีละราว 90 ล้านคน ส่วนที่ Nice มีปีละราว 11 ล้าน คน ซึ่งคนที่บ่ายหน้าลงมายัง Nice มีเป้าหมายคือการมาเที่ยว French Riviera หรือ Cote d’Azur เป็นส่วนใหญ่
ชายฝั่งของ Riviera เป็น โขดหิน เวิ้งอ่าว มีหาด แทรกอยู่บ้าง เหมาะกับการ เล่นน้ำ เปลือยกายอาบแดด
Nice Riviera เป็นเมืองต้นแบบชายทะเลที่น่าศึกษา เห็นได้ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือการใช้พื้นที่ชายทะเล เพื่อการท่องเที่ยวในฝั่งเมดิเตอเรเนียนของฝรั่งเศส มีความหลากหลาย และดึงจุดเด่นแต่ละพื้นที่ขึ้นมาชัดเจน เรามองไปเผิน ๆ แล้ว ทุกพื้นที่ก็เหมือน ๆ กัน แต่หากมองไปให้ละเอียดแล้วต่างกัน และมีลักษณะจำเพาะอยู่
คนมักใช้ Nice เป็นจุดตั้งต้นในการเที่ยว French Riviera การเดินทางในตัวเมือง Nice มีรถรางทันสมัยสวยงาม ส่วนการเดินทางออกจาก Nice ไปยังจุดข้างเคียง เช่น Cannes, Eze, หรือไป Monaco ก็มีรถประจำทาง ราคาไม่แพง หรือหากจะเดินทางให้ไกลออกไป เช่น St. Tropez, Marseille จะเดินทางด้วยรถไฟก็สะดวกมาก
ลักษณะเด่นหรือจุดขาย Riviera ฝรั่งเศส กับ Riviera ของอิตาลีคนละอารมณ์กัน Italian Riviera ส่วนที่เป็นพื้นที่สงบสำหรับบ้านพักส่วนตัว เช่น Villa Nobel คฤหาสน์ของ Alfred Nobel ซึ่ง ร.5 เคยไปประทับ ก็ยังมีอยู่มาก ส่วนเมืองที่มีชายหาดก็จะเต็มไปด้วยผู้คน บางเมืองปลูกอาคารเกาะกันแน่น ขึ้นไปตามเวิ้งภูเขาเต็มไปด้วยสีสัน ดูมีเสน่ห์ในแบบ Riviera ของอิตาลีที่ไม่มีใครเหมือน ถ้าแผ่นดินไหวหากเดินอยู่แถวนั้นวิ่งหนีให้ทันก็แล้วกัน
Italian Riviera อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งไม่ไกลจากเขตอุตสาหกรรมหนัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถยนต์ และเรือ ซึ่งมีโรงงานผลิตอยู่ในรัฐทางตอนเหนือ จะใช้ Genoa เมืองหลวงของรัฐ Liguria เป็นเมืองท่าส่งสินค้าออกไปขายทั่วโลก
ท่าเรือ Genoa นี่แหละค่ะเป็นท่าเรือใหญ่ และมี Boat Show ราวเดือนกันยายนของทุกปี เป็นงานที่เศรษฐี จากทั่วโลกมาเลือกซื้อเรือยอช์ท และมาหาซื้อไวน์จาก Piedmont ขวดที่ราคาโหด ๆ เราก็ไปดูเศรษฐีชอปปิ้งอีกทีหนึ่ง สำหรับใครชอบดูพริตตี้รถยนต์ ลองเปลี่ยนไปดูพริตตี้เรือยอช์ท รุ่นใหม่บ้าง แต่ขอบอกว่า… ต้องไปรอบพิเศษสำหรับนักข่าวนะคะ เขาจัดเต็มสุด ๆ ค่ะ…
สำหรับ French Riviera หรือ Cote d’Azur ในฝรั่งเศสนั้นมีชีวิตชีวา และดูผ่อนคลายกว่าในอิตาลี ฝรั่งเศสเน้นการกระจายคนไม่ให้อยู่กันแน่น เพราะเป็นพื้นที่ราบ จึงเปิดพื้นที่ออกไปเป็นจัตุรัส และทางเดินที่สบาย มีสวนดอกไม้ ลานน้ำพุคลายร้อน ฝรั่งเศสเน้นการสร้าง Promenade ทั้งในเมือง และที่ชายทะเล อีกส่วนนั้นได้นำงานศิลปะเข้ามาเติมบรรยากาศของ Riviera เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะงาน Picasso เทศกาลคาร์นิวัลช่วงอีสเตอร์ หรือเทศกาลภาพยนตร์ที่ Cannes
fragonard ferfume shop ร้านขายน้ำหอมดังของ Riviera
ฝรั่งเศสยังใช้ Riviera หรือ Cote d’Azur เป็นจุดนำเสนอผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เช่น การขาย น้ำหอมดังของภาคใต้อย่าง Fragonard และทำให้คนรู้ว่า …ไม่มีขายที่อื่นหรอกนะ ฝรั่งเศสยังแต่งเติมเรื่องหลายรสไว้ในบรรยากาศของ French Riviera หรือ Cote d’Azur เช่นจุดเริ่มถนนสาย N85 คือ La Route Napoleon หรือจุดเริ่มต้นเส้นทางที่จักรพรรดินโปเลียน เดินทางกลับไปครองอำนาจอีกครั้ง หลังจากลักลอบหนีจากเกาะ Elba กลับมาขึ้นฝั่งที่ชายหาด Golfe-Juan ของ French Riviera แล้วตรงไปปารีส นำฝรั่งเศสเข้าสงครามครั้งสุดท้ายในชีวิตที่ Waterloo
Nice ถูกพัฒนาให้เป็นเมืองสำคัญของ Riviera อย่างต่อเนื่อง แต่ Nice ก็ไม่ต้องการให้ตัวเองอยู่อย่างโดดเดี่ยว Nice จึงไปจับมือกับหลายเมืองชายทะเลโลกให้เป็น Sister City และ Sister City ของ Nice เมืองหนึ่งนั้นคือ Phuket ค่ะ