ส่วน Riviera ที่อยู่ในฝรั่งเศส อาจจะเรียก Riviera เหมือนในอิตาลีก็ได้ แต่คนฝรั่งเศสมักใช้คำเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Cote d’Azur (โก้ด ดา ซูร์) คือชายฝั่งริมน้ำสีคราม ความจริงแล้วในเขต Riviera ยังมีพื้นที่รัฐเล็ก ๆ อีกรัฐหนึ่งรวมอยู่ด้วยคือ …ราชรัฐ Monaco หากขับรถเลียบชายฝั่ง Riviera จากอิตาลีไปสุดในฝรั่งเศสรวดเดียว โดยใช้ Motorways (ในฝรั่งเศสเรียกว่า Autoroutes) แวะกินอาหารบ้าง เข้าห้องน้ำบ้าง ก็จะใช้เวลา 6-7 ชม.
แต่ถ้าขับไปแวะพักไป แบบ Slow Life เลือกลงไปใช้เส้นทางเล็ก ๆ เลียบชายทะเลบ้าง ไต่ขึ้นไปขับตามชายเขาบ้าง หาเส้นทางที่หวาดเสียว เช่น เส้นทางแบบที่เขาแข่งรถสูตร 1 ใน Monaco บ้าง ขอสัก 2 อาทิตย์ น่าจะกำลังดี อย่าให้เงินหมดเสียก่อนก็แล้วกัน….
เส้นทางใน Riviera ค่อนข้างอันตรายค่ะ เพราะเป็นถนนที่ต้องวิ่งอยู่บนเปลือกโลก ในส่วนของภูเขาแอลป์ทางใต้ของยุโรป ซึ่งบางส่วนจู่ ๆ ก็มาหักเป็นหน้าผา จมดิ่งลงไปในทะเล Mediterranean สำหรับทะเล Mediterranean นอกชายฝั่ง Riviera หากจะเรียกให้ถูกต้อง จะต้องเรียกว่าทะเล Ligurian เป็นชื่อกลุ่มคนดั้งเดิมที่เคยอาศัยอยู่ ต่อมากลายเป็นชื่อรัฐ Liguria ชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนืออิตาลี ถัดจากรัฐ Liguria ก็เข้าไปในพื้นที่ของฝรั่งเศส โดยมีรัฐ Monaco ขวางทางให้สะดุดอยู่หน่อยหนึ่ง
Riviera เป็นพื้นที่ต้นแบบเมืองธุรกิจชายฝั่งทะเลที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของโลก เริ่มจากคนอังกฤษหนีหนาวมาพักผ่อนที่ Riviera ราว 100 กว่าปีก่อน จากนั้นเมืองแถบ Riviera ได้พัฒนารูปแบบเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลเรื่อยมา ลักษณะชายฝั่งของ Riviera เป็น โขดหิน เวิ้งอ่าว มีหาด แทรกอยู่บ้าง เหมาะกับการ เล่นน้ำ เปลือยกายอาบแดด หรือล่องเรือส่วนตัว จอดแล้วพักค้างตรงซอกมุมของทะเลที่เงียบสงบ คนไป Riviera มักจะไปเริ่มต้นที่ Nice (นีซ) ในฝรั่งเศส ซึ่งมีชายหาดยาวมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นหินและกรวด
ท่าอากาศยาน Nice Cote d’Azur มีจำนวนผู้โดยสารใช้มากเป็นอันดับ 3 ในฝรั่งเศส คือรองจาก Paris Charles de Gaulle และ Paris Orly ขณะที่คนใช้สนามบินที่ Charles de Gaulle และ Orly รวมกันปีละราว 90 ล้านคน ส่วนที่ Nice มีปีละราว 11 ล้าน คน ซึ่งคนที่บ่ายหน้าลงมายัง Nice มีเป้าหมายคือการมาเที่ยว French Riviera หรือ Cote d’Azur เป็นส่วนใหญ่